Uniweb

ตัวอย่างและแนวทางการจัดทำ "รายงานความยั่งยืน" สำหรับเจ้าหน้าที่บริษัท

2025/04/30

รายงานความยั่งยืนคืออะไร

รายงานความยั่งยืนคือเอกสารที่บริษัทจัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมและสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ต่อภายนอกองค์กร

ไม่ใช่แค่รายงานกิจกรรม CSR ทั่วไปเท่านั้นแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดค่านิยมและกลยุทธ์การบริหารระยะกลางถึงยาวของบริษัทไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม

นอกจากนี้ รายงานนี้ยังไม่ใช่แค่รายงานธรรมดาแต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของบริษัท การจัดทำรายงานที่น่าเชื่อถือไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับนักลงทุนและคู่ค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้หางานและประชาชนทั่วไปเกิดความไว้วางใจและเห็นใจอีกด้วย

บทความนี้ได้นำตัวอย่างรายงานความยั่งยืนมาแนะนำ พร้อมทั้งอธิบายอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับความสำคัญ ขั้นตอนการจัดทำ และตัวอย่างข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อย เหมาะสำหรับผู้ที่รับผิดชอบการจัดทำรายงานเป็นครั้งแรกให้เข้าใจง่าย

สารบัญ

ตัวอย่างรายงานความยั่งยืนที่โดดเด่น 3 รายการ

เมื่อเริ่มต้นจัดทำรายงานความยั่งยืน ผู้รับผิดชอบหลายคนมักจะกังวลว่า “ควรนำเสนออะไรและอย่างไร”

ดังนั้น จากรายงานที่บริษัทต่าง ๆ เผยแพร่ออกมาเราขอนำเสนอตัวอย่างจาก 3 บริษัทที่มีความโดดเด่นทั้งด้านภาพลักษณ์และเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์เลือกประเด็นสำคัญและแนะนำความแตกต่างในแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงการจัดทำรายงานที่มีการวางโครงสร้างอย่างพิถีพิถัน

ตัวอย่างที่ 1 บริษัท Mitsui & Co., Ltd. การออกแบบรายงานที่รวมธุรกิจหลากหลายประเภท

รายงานความยั่งยืนของมิตซุยบุตสึซัง ①
รายงานความยั่งยืนของมิตซุยบุตสึซัง ②

Mitsui & Co., Ltd. ได้รวบรวมขอบเขตธุรกิจที่กว้างขวางในฐานะบริษัทการค้ารวมและรายงานการดำเนินการและผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละประเด็น ESGจุดเด่นอย่างยิ่งคือมีการจัดระเบียบ KPI และความก้าวหน้าในแต่ละประเด็นตามกรอบที่เรียกว่า “แผนปฏิบัติการสาระสำคัญ”

นอกจากนี้ ยังมีความล้ำหน้าในการดำเนินการภายในบริษัทเอง เช่น การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้โดยอาศัยป่าไม้ของบริษัท และการทำราคาคาร์บอนภายในองค์กรเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

มีการแทรกอินโฟกราฟิกอย่างเหมาะสมในแต่ละหน้า จึงทำให้โครงสร้างดูสมดุลและไม่รู้สึกว่ามีข้อมูลมากเกินไป

ที่มา:รายงานความยั่งยืน 2023 (Mitsui & Co., Ltd.)

ตัวอย่างที่ 2 บริษัท Shiseido Co., Ltd. การนำเสนอเรื่องราวที่สอดคล้องกับแบรนด์

รายงานความยั่งยืนของชิเซโด้ ①
รายงานความยั่งยืนของชิเซโด้ ②

รายงานของ บริษัท Shiseido ผสมผสานภาพลักษณ์ความงามกับความยั่งยืนได้อย่างโดดเด่นทั้งในแง่ของภาพและเรื่องเล่า

ภายใต้แนวคิด “Beauty Innovations for a Better World” มีการสื่อสารข้อความที่สอดคล้องกับค่านิยมของแบรนด์เกี่ยวกับประเด็นสังคมเช่น สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และความหลากหลาย

โดยเฉพาะความก้าวหน้าในการลดการใช้พลาสติกหรือสัดส่วนของผู้บริหารหญิงที่เพิ่มขึ้น ถูกนำเสนอผ่านกราฟและอินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่าย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการออกแบบรูปแบบการสื่อสารที่ช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องของตนเองและมีจุดยืนที่เข้าถึงความรู้สึกของผู้บริโภคอย่างชัดเจน

ที่มา:รายงานความยั่งยืน 2023 (Shiseido Co., Ltd.)

ตัวอย่างที่ 3 บริษัท Nippon Steel Corporation ความท้าทายในอุตสาหกรรมการผลิตกับการลดคาร์บอนและนวัตกรรมเทคโนโลยี

รายงานความยั่งยืนของนิฮอนเซ็ตเท็ตสึ ①
รายงานความยั่งยืนของนิฮอนเซ็ตเท็ตสึ ②

ในอุตสาหกรรมเหล็กซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง Nippon Steel Corporation ได้แสดงให้เห็นถึงการดำเนินนวัตกรรม เช่น การพัฒนาวิธีการผลิตเหล็กด้วยการลดด้วยไฮโดรเจน

เส้นทางการลดการปล่อย CO2 ถูกวางไว้ตามโรดแมประยะยาว สะท้อนให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงกำลังดำเนินอยู่ในอุตสาหกรรมหนัก

มีการจัดระเบียบการดำเนินงานหลากหลายด้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรบุคคล ความปลอดภัย และการมีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างละเอียด โดยเฉพาะในรายงานของอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งมักเน้นข้อความเป็นหลักการใช้ภาพแนวคิด แผนภาพขั้นตอน และกราฟต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพในเชิงภาพช่วยสนับสนุนความเข้าใจของผู้อ่าน

ที่มา:รายงานความยั่งยืน ประจำปี 2023 (Nippon Steel Corporation)

เมื่อเปรียบเทียบรายงานของทั้งสามบริษัทจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนในการจัดโครงสร้างและการนำเสนอขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและท่าทีของบริษัทในหัวข้อถัดไป จะอธิบายสาเหตุว่าทำไมรายงานเหล่านี้ถึงถูกคาดหวังจากบริษัทในปัจจุบัน พร้อมทั้งความเป็นมาและความหมายทางสังคม

 

เบื้องหลังที่ทำให้รายงานความยั่งยืนได้รับความสำคัญ

รายงานความยั่งยืนเป็นเครื่องมือเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีท่าทีอย่างไรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และปฏิบัติอะไรบ้างเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ในช่วงปีล่าสุด มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้รายงานนี้มีความสำคัญขยายตัวของการลงทุน ESG และการเข้มงวดของมาตรฐานเปิดเผยข้อมูลระดับสากลด้วย

ความเคลื่อนไหวเช่น CSRD (คำสั่งรายงานความยั่งยืนของบริษัท) ที่กำลังดำเนินในยุโรป การสร้างแนวทางรายงานรวมระดับสากล รวมถึงการก่อตั้ง TCFD (Task Force for Climate-related Financial Disclosures) และ ISSB (คณะกรรมการมาตรฐานความยั่งยืนระหว่างประเทศ)ทำให้ความน่าเชื่อถือและความสามารถในการเปรียบเทียบข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงินได้รับการเรียกร้องในระดับโลกมากขึ้น

สำหรับบริษัทการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงหน้าที่ แต่ยังถูกคาดหวังให้แสดงออกเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์บริหารดังนั้น รายงานความยั่งยืนจึงถูกนิยามใหม่ไม่ใช่แค่เรื่องต่อเนื่องของ CSR แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างคุณค่าและความสามารถในการแข่งขันในระยะกลางถึงยาวของบริษัท

ภายใต้บริบทนี้ รายงานไม่เพียงแต่สำหรับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคู่ค้า พนักงาน ผู้หางาน และชุมชนท้องถิ่นเป็นเครื่องมือในการสร้างความเชื่อมั่นกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายทำหน้าที่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่เพียงแค่บันทึกกิจกรรม แต่เป็นการสื่อสารว่าทำไมถึงดำเนินการและสร้างคุณค่าอย่างไร เพื่อถ่ายทอดท่าทีและศักยภาพในอนาคตของบริษัท

นอกจากนี้ รายงานที่น่าเชื่อถือสูงยังมีสามองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้คือ “ความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และความต่อเนื่อง”

การเผยแพร่ต่อเนื่องทุกปี, การแสดงตัวเลขและ KPI อย่างเป็นกลาง, และการจัดทำตามแนวทางระดับสากล (เช่น GRI, TCFD, ISO26000 เป็นต้น)เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงโดยตรงกับความน่าเชื่อถือและการประเมินผลของรายงานโดยรวม

กลุ่มผู้อ่านรายงานความยั่งยืนมีความหลากหลายมากขึ้น

กลุ่มผู้อ่านก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในอดีตเน้นที่นักลงทุนและสถาบันการเงินเป็นหลักแต่ในปัจจุบันเป็นยุคที่ผู้หางาน, ผู้บริโภคทั่วไป และนักเรียนก็หันมาตรวจสอบท่าทีด้านความยั่งยืนของบริษัทด้วยเช่นกันเช่น อัตราส่วนผู้บริหารหญิง, เป้าหมายลด CO2 ที่ชัดเจน, หรือผลงานกิจกรรมสนับสนุนชุมชนล้วนแต่อาจกลายเป็นเกณฑ์ตัดสินใจเลือกบริษัทซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้ไม่น้อย

ด้วยเหตุนี้ รายงานความยั่งยืนจึงพัฒนากลายเป็นเอกสารเชิงกลยุทธ์ที่มองเห็นคุณค่าของบริษัทในหลายมิติ

ในหัวข้อต่อไป เราจะอธิบายความแตกต่างกับ “รายงาน CSR” ที่มักถูกสับสนกัน พร้อมทั้งลงรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะและความสำคัญอย่างชัดเจน

 

ความแตกต่างกับรายงาน CSR

ครั้งหนึ่ง รายงาน CSR (Corporate Social Responsibility Report) เคยเป็นเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการสื่อสารกิจกรรมของบริษัทต่อสังคม

รายงาน CSR เน้นที่กิจกรรมเพื่อสังคม, การตอบสนองด้านสิ่งแวดล้อม และการทำงานอาสาสมัครเป็นหลักโดยมีบทบาทสำคัญในฐานะการประชาสัมพันธ์สรุปว่า “บริษัททำสิ่งดี ๆ”

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ได้รับการประเมินค่าใหม่ในฐานะที่เชื่อมโยงโดยตรงกับกลยุทธ์การเติบโตระยะกลางถึงยาวและการบริหารความเสี่ยงของบริษัทโดยเปลี่ยนผ่านจาก “รายงาน CSR” ไปสู่ “รายงานความยั่งยืน” ที่มีความครอบคลุมและเชิงกลยุทธ์มากขึ้น

ด้านล่างนี้เป็นการสรุปความแตกต่างระหว่างสองรายงานนี้

◆ ความแตกต่างระหว่างรายงาน CSR และรายงานความยั่งยืน

รายงาน CSR รายงานความยั่งยืน
วัตถุประสงค์หลัก กิจกรรมเพื่อสังคมและประชาสัมพันธ์ การอธิบายการบริหารที่ยั่งยืน
หัวข้อหลัก กิจกรรมสังคมและชุมชน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
กลุ่มเป้าหมายผู้อ่าน ชุมชนท้องถิ่นและผู้บริโภค นักลงทุน สถาบันการเงิน คู่ค้า และผู้หางาน
ข้อมูลที่เปิดเผย เน้นที่เนื้อหากิจกรรม รวมถึงกลยุทธ์ KPI ความเสี่ยง และผลลัพธ์
มาตรฐานที่ยึดถือ มักเป็นรูปแบบที่จัดทำตามความสมัครใจหรือรูปแบบเฉพาะ อ้างอิงมาตรฐานสากล (เช่น GRI, TCFD เป็นต้น)
ความสัมพันธ์กับการบริหาร มักแยกจากการบริหารออกจากกัน บูรณาการกับกลยุทธ์การบริหาร

ในบางบริษัทมีแนวโน้มที่จะพัฒนา จากรายงาน CSR เป็นรายงานความยั่งยืน และต่อยอดไปสู่รายงานบูรณาการที่รวมข้อมูลทางการเงินด้วย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่าข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงินได้เปลี่ยนแปลงจาก “การรายงานด้วยความตั้งใจดี” ไปสู่ “ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ที่สื่อถึงคุณค่าที่แท้จริงของการบริหาร”

กล่าวอย่างสั้น ๆ คือรายงาน CSR คือ “รายงานว่าเรากำลังทำอะไรอยู่” ส่วนรายงานความยั่งยืนคือ “เอกสารเชิงกลยุทธ์ที่แสดงว่าทำไมถึงทำและสร้างคุณค่าได้อย่างไร”สามารถกล่าวได้เช่นนั้น

ต่อไป เราจะอธิบายขั้นตอนการจัดทำรายงานความยั่งยืนอย่างเป็นระบบและชัดเจนทีละขั้นตอน

 

5 ขั้นตอนในการจัดทำรายงานความยั่งยืนที่น่าเชื่อถือ

เมื่อจัดทำรายงานความยั่งยืนเป็นครั้งแรก หลายผู้รับผิดชอบมักกังวลว่า “ต้องเริ่มอย่างไรและสรุปอย่างไร” ดังนั้น เราจะแนะนำกระบวนการทำรายงานจริงโดยแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน พร้อมคำอธิบายที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง

◆ 5 ขั้นตอนในการจัดทำรายงานความยั่งยืน

5 ขั้นตอนการจัดทำรายงานความยั่งยืน

ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

สิ่งแรกที่ต้องคิดคือ“ทำเพราะเหตุใด” และ “ต้องการให้ใครอ่าน”เป็นเช่นนั้น

ขึ้นอยู่กับว่ารายงานนี้มุ่งเน้นสำหรับนักลงทุน คู่ค้า หรือผู้หางานและผู้บริโภค โดยโครงสร้างและโทนจะเปลี่ยนแปลงตามกลุ่มเป้าหมาย เช่นถ้าคำนึงถึง IR การเปิดเผยยุทธศาสตร์และ KPI จะมีความสำคัญ และหากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคหรือ นิสิต นักศึกษา การเล่าเรื่องที่สร้างความเห็นอกเห็นใจและภาพประกอบก็จะได้รับความสำคัญเช่นกัน

การระบุให้ชัดเจนว่าจะส่งข้อความถึงใคร จะช่วยทำให้ข้อความไม่คลาดเคลื่อนและสามารถสร้างโครงสร้างที่มั่นคงได้

ขั้นตอนที่ 2 การสืบค้นข้อมูลที่จำเป็น

ควรรวบรวมเอกสารที่มีอยู่ในบริษัท รายงานกิจกรรม CSR ในอดีต และบันทึกการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับมติเรียริที (ประเด็นสำคัญ)

จัดการฟังความคิดเห็นข้ามแผนกโดยการเข้าใจมาตรการที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ตัวเลข และเจตนาที่อยู่เบื้องหลัง จะช่วยเปลี่ยนคุณภาพโดยรวมของรายงานไปในทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง KPI และข้อมูลเชิงปริมาณ หากเริ่มรวบรวมตั้งแต่ขั้นต้นจะช่วยให้ง่ายขึ้นในภายหลัง

การจัดระเบียบแหล่งที่มาของข้อมูลจะช่วยให้สามารถออกแบบรายงานที่เชื่อถือได้และมีความซ้ำได้

ขั้นตอนที่ 3 การวางโครงสร้างตามแนวทางที่กำหนด

มาตรฐาน GRI, TCFD, ISO26000เลือกแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้แล้วพิจารณารูปแบบตามแนวทางนั้น ๆ

โครงสร้างเรื่องราว เช่น 'ยุทธศาสตร์' 'เป้าหมาย' 'ความพยายาม' 'ผลลัพธ์' 'นโยบายในอนาคต'สร้างขึ้นมาและในแต่ละบทมอบหมายองค์ประกอบที่จำเป็นไว้ จะช่วยรักษาความสอดคล้องของเนื้อหาไว้ได้หากจำเป็นควรนำแผนที่มติเรียริทีหรือการทำแผนที่ SDGs มาใช้ด้วยก็ได้

การปฏิบัติตามมาตรฐานทางราชการเป็นจุดสำคัญที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือจากภายนอกบริษัท

ขั้นตอนที่ 4 การปรับแต่งการออกแบบและภาพประกอบให้เหมาะสม

การนำเสนอมีความสำคัญเช่นกันในการส่งสารที่ต้องการสื่อให้ชัดเจนใช้กราฟิกสารสนเทศ การวาดภาพประกอบ และการออกแบบสีจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจและจดจำได้ง่ายขึ้น

โดยเฉพาะเนื่องจากจำนวนผู้อ่านที่อ่านผ่านสมาร์ทโฟนกำลังเพิ่มขึ้น การออกแบบหน้าเพจจึงต้องคำนึงถึง 'ความง่ายในการอ่าน ความง่ายในการมองเห็น และความง่ายในการพลิกหน้า'โครงสร้างที่คำนึงถึงการมองเห็นนั้นไม่เพียงช่วยส่งเสริมความเข้าใจเนื้อหาเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบอย่างมากต่อภาพลักษณ์โดยรวมของรายงานด้วย

ขั้นตอนที่ 5 การทบทวนและปรับปรุงโดยบุคคลที่สาม

เมื่อเสร็จสิ้นแล้วไม่ใช่แค่ภายในบริษัทเท่านั้น หากเป็นไปได้ขอรับการตรวจทานจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือบริษัทพันธมิตรแนะนำให้รับฟังเพื่อช่วยตรวจจับข้อผิดพลาดหรือความลำเอียงในประเด็น นอกจากนี้การเผยแพร่ความคิดเห็นจากบุคคลที่สามยังเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวมของรายงานด้วย

อย่าจบแค่ฉบับแรกการมีกระบวนการ PDCA หมุนเวียนเพื่อปรับปรุงทุกปีถือเป็นมุมมองที่สำคัญการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องคือสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมคุณค่าของรายงานและทัศนคติของบริษัทในระยะยาว

รายงานความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้นโดยคนเดียว ต้องมีการประสานงานระหว่างแผนกต่าง ๆ การจัดระเบียบข้อมูล และการออกแบบการนำเสนอ รวมถึงขั้นตอนมากมาย ดังนั้นจึงควรแชร์ภาพรวมและวัตถุประสงค์ตั้งแต่ต้นเพื่อให้การจัดทำรายงานเป็นไปอย่างราบรื่นและการสื่อสารมีประสิทธิผล

ต่อไปจะแนะนำตัวอย่างข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นใน การจัดทำรายงาน และจุดที่ควรหลีกเลี่ยง

 

3 ความผิดพลาดและจุดที่ควรหลีกเลี่ยงในการจัดทำรายงานความยั่งยืน

ในการจัดทำรายงานความยั่งยืน ไม่ว่าคุณจะทุ่มเทมากแค่ไหน หากไม่ทำให้ผู้อ่านประทับใจ ก็ไม่มีความหมาย ที่นี่จะแนะนำข้อผิดพลาด 3 แบบที่มักถูกมองข้ามและจุดที่ควรระวังเพื่อหลีกเลี่ยง

ความผิดพลาดที่ 1 มุ่งเน้นแค่รายงานภายในองค์กรจนขาดมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ถ้ามองรายงานว่าเป็นเพียง 'บันทึกกิจกรรมของบริษัท' มากเกินไปมักจะกลายเป็นการเรียงลำดับ 'สิ่งที่ทำไปแล้ว'มักเน้นผลลัพธ์ภายในอย่างเช่นเนื้อหาและจำนวนความพยายามที่ได้ดำเนินการไป ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านยากที่จะเห็นความหมายหรือคุณค่า

แต่ผู้อ่านที่แท้จริงคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก เช่น นักลงทุน คู่ค้า ผู้สมัครงาน และชุมชนท้องถิ่นหากไม่สื่อสารจากมุมมองภายนอกว่า 'มีคุณค่าอย่างไร' จะไม่สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้อ่านได้

◆ จุดที่ควรหลีกเลี่ยง

ไม่เพียงแค่ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเป็นรายงานสำหรับใครเท่านั้น แต่ยังควรประยุกต์ใช้วิธีการดังนี้ด้วย

แบ่งตามผู้มีส่วนได้ส่วนเสียออกแบบโครงสร้างบทตามกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (เช่น 'ยุทธศาสตร์ ESG สำหรับนักลงทุน' 'การดูแลสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้บริโภค')
・เติมข้อความอย่างเช่น 'เรามุ่งหวังที่จะสร้างสังคมแบบ ○○ ผ่านความพยายามนี้'ข้อความแทรกในจุดสำคัญ
・เน้นการเปลี่ยนแปลงและจุดที่ปรับปรุงจากปีก่อนเพื่อแสดงความใส่ใจแก่ผู้อ่านที่สนใจอ่านต่อเนื่อง

การคิดว่าผู้อ่านเป็น "คู่สนทนาในการนำเสนอ" จะช่วยให้การจัดโครงสร้างบทความและภาษาที่ใช้มีความเป็นมิตรและเปิดเผยมากขึ้นโดยธรรมชาติ

ความผิดพลาดที่ 2 แสดงแต่ตัวชี้วัดอย่างเดียวโดยไม่มีเรื่องราวที่เป็นรูปธรรม

การจัดเรียงตัวเลขเช่น "ลด CO2 ลง ◯%" หรือ "สัดส่วนผู้บริหารหญิง ◯%" อย่างเดียวจะทำให้สื่อสารได้ยากขึ้น แม้ว่าผลลัพธ์เชิงปริมาณจะมีความสำคัญ แต่เพียงแค่นั้นไม่สามารถสื่อถึงทัศนคติของบริษัทต่อความพยายามนั้นได้

สิ่งที่ผู้อ่านต้องการทราบคือ"ทำไมถึงดำเนินการความพยายามนั้น" และ "ทำไมจึงให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดนั้น"คือเบื้องหลังและเจตนารมณ์เหล่านี้

เพื่อส่งต่อข้อความของบริษัท สิ่งสำคัญคือการสื่อสารไม่เพียงแค่ตัวเลข แต่รวมถึงเรื่องราวเบื้องหลังด้วย

◆ จุดที่ควรหลีกเลี่ยง

รายงานความยั่งยืนมีเรื่องราวเป็นหัวใจสำคัญ และตัวเลขเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวนั้น

KPI และตัวชี้วัดผลลัพธ์การนำเสนอเรื่องราวครบชุดตั้งแต่ "เบื้องหลัง" → "เป้าหมาย" → "ผลลัพธ์" → "ทิศทางในอนาคต" ของความพยายามจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ถ้าเป็นไปได้ ควรแนบเสียงจากฝ่ายที่รับผิดชอบหรือภาพถ่ายจากสถานที่จริงเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของความพยายามที่อยู่เบื้องหลังตัวเลข ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ความผิดพลาดที่ 3 รูปแบบดูดีแต่เนื้อหาขาดความลึกซึ้ง

แม้ว่าจะปฏิบัติตามแนวทางสากล (เช่น GRI, TCFD) ในลักษณะทางการ แต่หากขาดความเป็นจริง อาจทำให้เสียความน่าเชื่อถือได้ แม้ว่าจะจัดเตรียมโครงสร้างบทและหัวข้อเปิดเผยข้อมูลเรียบร้อยแล้วแต่ถ้าเนื้อหาหลักอ่อนแอ ผู้อ่านจะรับรู้ความไม่สมจริงได้อย่างรวดเร็ว

การแสดงออกในลักษณะที่ว่า "เปิดเผยข้อมูลแล้วจึงถือว่าดำเนินการแล้ว" อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกไม่ไว้วางใจ คิดไปว่า "อาจจะไม่มีความจริงจัง"

◆ จุดที่ควรหลีกเลี่ยง

แนวทางเป็นเพียง "กรอบ" เท่านั้น สิ่งที่ต้องการสื่อจริงๆ คือ"ถูกสื่อสารด้วยคำพูดที่เป็นตัวตนของบริษัทหรือไม่"เป็นสิ่งสำคัญ

เช่น การใส่ภาพอนาคตที่ผู้บริหารเล่าด้วยคำพูดของตนเองในข้อความจากผู้นำ หรือเพิ่มการแนะนำความพยายามของพนักงานหน้าสถานที่ ฯลฯ การออกแบบที่เห็นได้ทั้งรูปแบบและ "ท่าที" จะเชื่อมโยงสู่ความน่าเชื่อถือ

รายงานความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่แค่จัดทำขึ้นมาเท่านั้นแต่เป็นเครื่องมือสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อมั่นกับผู้อ่านและต้องระวังว่า การออกแบบที่ผิดพลาดอาจส่งผลย้อนกลับ

 

สรุป

รายงานความยั่งยืนไม่ใช่แค่ช่องทางการเปิดเผยข้อมูลเท่านั้น

ในขณะที่ความยั่งยืนถูกให้ความสำคัญในฐานะประเด็นการบริหารจัดการ การเผชิญหน้าของบริษัทกับสังคมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เพียงแต่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเท่านั้น แต่รวมถึงคู่ค้า พนักงาน และผู้บริโภคต่างให้ความสนใจ

การสื่อสารที่โปร่งใสผ่านรายงานความยั่งยืนจะกลายเป็นเหตุผลของความไว้วางใจ ความเห็นใจ และการถูกเลือก

ในการจัดทำรายงานความยั่งยืน สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการร้อยเรียงอย่างตั้งใจว่า "จะสื่อสารสิ่งที่ควรสื่อสารให้ใครและอย่างไร" โดยตระหนักว่าเป็นฐานรากความเชื่อถือในการดำเนินกิจกรรมของบริษัท

เริ่มต้นด้วยการขอข้อมูลเบื้องต้นง่าย ๆ

จะแนะนำเกี่ยวกับฟังก์ชันและขั้นตอนการนำเข้าของUniweb

ขอเอกสาร