นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท Kiva จำกัด (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) จะจัดการ ปกป้อง และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทได้รวบรวมและถือครองผ่านเว็บไซต์ที่บริษัทบริหารจัดการโดยเหมาะสม ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายกิจการโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับความลับของการสื่อสาร รวมถึงข้อบังคับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงแนวทางที่เกี่ยวข้อง) และตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
1. ข้อมูลที่เก็บรวบรวม
1) เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ของลูกค้า เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อีเมล และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ลูกค้าเลือกให้บริษัทหรือเลือกใส่ในบัญชีของตน (เรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”) ลูกค้าอาจถูกขอให้ให้ข้อมูลการชำระเงิน แต่บริษัทจะไม่เก็บรักษาหรือเข้าถึงข้อมูลนี้ การชำระเงินจะดำเนินการโดยผู้ให้บริการจัดการชำระเงินของบุคคลที่สาม
2) คุกกี้
เว็บไซต์นี้มีหน้าที่ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าเมื่อเข้าชมเว็บไซต์นี้อีกครั้ง
“คุกกี้” คือ เทคโนโลยีที่เซิร์ฟเวอร์เว็บใช้เพื่อระบุคอมพิวเตอร์ของลูกค้า
ลูกค้าสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปิดใช้งานคุกกี้ได้ แต่ผลลัพธ์อาจทำให้บริการทั้งหมดหรือบางส่วนบนเว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้
3) ชื่อและที่อยู่ของผู้ดำเนินการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงชื่อผู้แทนในกรณีที่เป็นนิติบุคคล
ชื่อผู้ดำเนินการ: บริษัท Kiva จำกัด
ตัวแทนกรรมการผู้มีอำนาจ: Yuta Isozaki
ที่อยู่: ชั้น 7 อาคาร 3-12-5 สึกิจิ เขตชูโอ กรุงโตเกียว
4) ชื่อหรือตำแหน่ง หน่วยงาน และช่องทางติดต่อของผู้รับผิดชอบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (หรือผู้แทน)
ผู้รับผิดชอบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: Yuta Isozaki
อีเมล:[email protected]
หมายเลขโทรศัพท์: 03-6264-0825
2. มาตรการเพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ใช้
บริษัทดำเนินมาตรการหลักต่อไปนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ใช้เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
① เมื่อได้รับคำขอจากบุคคลนั้น บริษัทจะหยุดส่งไดเรคเมลและหยุดการโทรแนะนำสินค้าหรือบริการ
② บริษัทอาจมอบหมายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหรือบางส่วนภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยเลือกผู้รับมอบหมายที่ได้รับการยอมรับว่าจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และกำหนดเงื่อนไขการจัดการด้านความปลอดภัย การรักษาความลับ และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในสัญญามอบหมาย พร้อมดำเนินการกำกับดูแลอย่างเหมาะสมและจำเป็น
3. การระบุและประกาศวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล
บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับและถือครองอยู่ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์การใช้งานดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า
① เพื่อการให้บริการ บำรุงรักษา ปกป้อง และพัฒนาบริการของบริษัท (รวมถึงการรับสมัครสมาชิก การยืนยันตัวตน การตรวจสอบผู้ใช้ การบันทึกการตั้งค่าผู้ใช้ และการคำนวนค่าบริการ)
② เพื่อวัดการจราจรและพฤติกรรมของลูกค้า
③ เพื่อการส่งมอบการแสดงโฆษณา และวัดผลของโฆษณา
④ เพื่อตอบสนองต่อการกระทำที่ละเมิดข้อกำหนด นโยบาย ฯลฯ (เรียกว่า “ข้อกำหนดต่าง ๆ”) ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัท
⑤ เพื่อแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัท
⑥ เพื่อส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับบัญชีของลูกค้า
⑦ เพื่อการติดต่อกับลูกค้าเกี่ยวกับเว็บไซต์นี้และบริการของบริษัท
⑧ เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับบริการใหม่ กิจกรรม และสัมมนา ฯลฯ
⑨ เพื่อการสำรวจและวิเคราะห์การขายเกี่ยวกับบริการของบริษัท
⑩ วัตถุประสงค์การใช้งานอื่น ๆ ที่บริษัทได้ระบุและประกาศล่วงหน้า
2) ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานกับบริษัท
① เพื่อการคัดเลือกพนักงาน
② เพื่อการตอบคำถามและข้อสงสัย
3) ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน
เพื่อการจัดการแรงงาน ทรัพยากรมนุษย์ ดำเนินการเงินเดือนสวัสดิการ การดูแลสุขภาพ สวัสดิการสังคมและภาษี รวมถึงการจัดการด้านการศึกษา
4. การใช้ข้อมูลภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์การใช้งาน
บริษัทจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะภายในขอบเขตที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุและประกาศไว้ล่วงหน้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้ บริษัทอาจจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเกินกว่าขอบเขตดังกล่าวโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า
1) กรณีที่เป็นไปตามกฎหมาย
2) เมื่อจำเป็นเพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากลูกค้าเอง
3) กรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อส่งเสริมสุขอนามัยของสาธารณะหรือสนับสนุนการเจริญเติบโตที่ดีของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากลูกค้าเอง
4) กรณีที่จำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายตามกฎหมาย ในการปฏิบัติงานตามกฎหมาย และหากได้รับความยินยอมจากลูกค้าอาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานดังกล่าว ทั้งนี้ ข้อมูลที่เป็นความลับของการสื่อสารจะไม่ถูกจัดการเกินขอบเขตที่กำหนดโดยกฎหมายหรือแนวทาง
5. ระยะเวลาการเก็บรักษา
บริษัทกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้อยู่ในขอบเขตที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์การใช้งาน และจะลบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยไม่ล่าช้าหลังจากระยะเวลาเก็บรักษาสิ้นสุดหรือหลังบรรลุวัตถุประสงค์การใช้งาน อย่างไรก็ตาม ไม่อยู่ในขอบเขตนี้เมื่อเป็นไปตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
1) เมื่อกฎหมายกำหนดให้ต้องเก็บรักษา
2) เมื่อได้รับความยินยอมจากผู้มีข้อมูล
6. การได้มาซึ่งข้อมูลอย่างถูกต้อง
บริษัทจะไม่ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยวิธีการที่เท็จหรือวิธีการที่ไม่ชอบธรรมอื่นใด
7. มาตรการการจัดการความปลอดภัย
บริษัทจะพยายามรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้ถูกต้องและทันสมัย พร้อมกับดำเนินมาตรการการจัดการความปลอดภัยที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต การแก้ไขข้อมูล การรั่วไหล สูญหาย และความเสียหาย ดังต่อไปนี้
1) มาตรการการจัดการความปลอดภัยในเชิงองค์กร
・ กำหนดผู้รับผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และบริหารระบบการรายงาน การติดต่อสื่อสาร และวิธีการจัดการข้อมูล
・ ดำเนินการตรวจสอบและการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับสถานการณ์การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
2) มาตรการการจัดการความปลอดภัยในเชิงบุคคล
・ ให้การฝึกอบรมแก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับข้อควรระวังในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
・ รวมเรื่องการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในข้อบังคับการทำงานและอื่น ๆ
3) มาตรการการจัดการความปลอดภัยในเชิงกายภาพ
・ ดำเนินการควบคุมการเข้าออกและจำกัดอุปกรณ์ที่นำเข้ามา พร้อมทั้งดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยผู้ไม่มีสิทธิ์
・ ดำเนินมาตรการป้องกันการโจรกรรมหรือการสูญหายของอุปกรณ์หรือเอกสารที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคล
4) มาตรการการจัดการความปลอดภัยในเชิงเทคนิค
・ กำหนดกฎเกณฑ์และสิทธิ์การตรวจสอบผู้เข้าใช้งานฐานข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคลให้ชัดเจน และจำกัดเฉพาะผู้ที่จำเป็นเท่านั้น
・ รักษาให้ซอฟต์แวร์มาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบหรืออุปกรณ์ที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
8. การควบคุมดูแลพนักงาน
บริษัทจะควบคุมดูแลพนักงานอย่างจำเป็นและเหมาะสมเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการจัดการฝึกอบรมที่จำเป็นเพื่อให้พนักงานจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม
9. การให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม
บริษัทจะไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า เว้นแต่ในกรณีที่ระบุไว้ต่อไปนี้
1) กรณีที่เป็นไปตามกฎหมาย
2) เมื่อจำเป็นเพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากลูกค้าเอง
3) กรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อส่งเสริมสุขอนามัยของสาธารณะหรือสนับสนุนการเจริญเติบโตที่ดีของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากลูกค้าเอง
4) ในกรณีที่จำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ หรือนิติบุคคลท้องถิ่น หรือผู้ที่รับมอบหมายจากหน่วยงานดังกล่าวในการปฏิบัติงานตามกฎหมาย และหากการขอความยินยอมจากลูกค้าอาจทำให้การดำเนินการดังกล่าวมีอุปสรรค
10. การใช้ข้อมูลร่วมกัน
บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกันภายในขอบเขตดังต่อไปนี้ เพื่อให้บริการของบริษัทฯ
1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะใช้ร่วมกัน
ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่จัดส่ง หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมล
2) ขอบเขตของผู้ที่ใช้ร่วมกัน
พันธมิตรทางธุรกิจ (ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัท)
3) วัตถุประสงค์ในการใช้ร่วมกันของผู้ใช้ร่วม
การให้บริการของบริษัทต่อลูกค้า
4) ชื่อ ที่อยู่ และชื่อของตัวแทนผู้รับผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจจะเป็นผู้ดูแลข้อมูลดังต่อไปนี้ตามที่ระบุไว้
บริษัทเรา:
Kiva Co., Ltd. ชั้น 7 อาคาร 3-12-5 Tsukiji, เขตชูโอ, โตเกียว
ประธานกรรมการบริหาร โยตะ โซซากิ
ผู้รับผิดชอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล โยตะ โซซากิ
พันธมิตรทางธุรกิจ:
โปรดตรวจสอบที่เว็บไซต์พันธมิตร
11. คำขอเปิดเผยข้อมูล ฯลฯ
หากท่านต้องการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ขอเปิดเผยข้อมูล ขอแก้ไข เพิ่ม หรือลบข้อมูล หรือขอระงับการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลที่สาม รวมทั้งขอเปิดเผยบันทึกการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม โปรดติดต่อที่หน่วยงานให้คำปรึกษาด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่ท้ายเอกสารผ่านทางไปรษณีย์หรือโทรศัพท์
เราจะส่ง "แบบคำร้องขอเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล" (ต่อไปนี้เรียกว่า "แบบคำร้องขอเปิดเผย") กรุณาตรวจสอบรายละเอียดในแบบคำร้องฯ กรอกข้อมูลตามรายการ และแนบเอกสารยืนยันตัวตนที่บริษัทกำหนด จากนั้นส่งทางไปรษณีย์ไปยังหน่วยงานให้คำปรึกษาด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่ท้ายเอกสาร
(ขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับคำขอเปิดเผยข้อมูล ฯลฯ)
หลังจากรับคำขอแล้ว เราจะส่ง "แบบคำร้องขอเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้" กรุณาส่งแบบคำร้องที่ท่านกรอกแล้ว และสำเนาเอกสารยืนยันตัวตน รวมถึงเอกสารที่ยืนยันตัวแทนในกรณีใช้ตัวแทน
- สำเนาเอกสารยืนยันตัวตน (ใบขับขี่, หนังสือเดินทาง, บัตรประกันสุขภาพ, ทะเบียนบ้าน, สมุดบัญชีบำนาญ ฯลฯ)
- เอกสารยืนยันว่าเป็นตัวแทน (ดูตัวอย่างด้านล่าง ข้อมูลถิ่นกำเนิดในเอกสารต่างๆ ให้ระบุเพียงระดับจังหวัด ส่วนข้อมูลอื่นให้ทำการปิดบัง เช่น ใช้วิธีขีดฆ่า)
- กรณีเป็นผู้แทนตามกฎหมายของผู้เยาว์
- สำเนาเอกสารยืนยันตัวตนของตัวแทน
- สำเนาเอกสารใดเอกสารหนึ่งดังต่อไปนี้
- สูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนครอบครัว
- ทะเบียนบ้าน (ที่ระบุความสัมพันธ์ในครอบครัว)
- เอกสารทางราชการอื่นที่สามารถยืนยันสิทธิ์ตัวแทนตามกฎหมาย
- กรณีเป็นผู้แทนตามกฎหมายของผู้ใหญ่ที่ได้รับการคุ้มครองตามศาล
- สำเนาเอกสารยืนยันตัวตนของตัวแทน
- สำเนาเอกสารใดเอกสารหนึ่งดังต่อไปนี้
- ใบรับรองการรับรองสถานะผู้ใหญ่ที่ได้รับการคุ้มครองตามศาล
- เอกสารทางราชการอื่นที่สามารถยืนยันสิทธิ์ตัวแทนตามกฎหมาย
- กรณีเป็นตัวแทนโดยได้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบอำนาจ
- หนังสือรับรองตราประทับของเจ้าของข้อมูล (ออกภายใน 3 เดือน)
- สำเนาเอกสารยืนยันตัวตนของตัวแทนที่ได้รับมอบหมาย
(ค่าธรรมเนียมและวิธีชำระเงินสำหรับคำขอเปิดเผยข้อมูล ฯลฯ)
สำหรับคำขอแต่ละครั้ง กรุณาโอนเงินจำนวน 1,000 เยน ไปยังบัญชีที่ระบุในใบแจ้งหนี้ของบริษัท (ค่าธรรมเนียมการโอนให้ผู้ขอเป็นผู้รับผิดชอบ)
※ หากค่าธรรมเนียมไม่ครบถ้วนหรือยังไม่ถูกโอน เราจะแจ้งให้ทราบ แต่หากยังไม่ได้รับชำระภายในเวลาที่กำหนด จะถือว่าคำขอเปิดเผยไม่ได้ถูกส่งมา
12. ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล
การให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องสมัครใจ หากท่านไม่ให้ข้อมูลบางส่วนที่เกี่ยวข้อง อาจไม่สามารถตอบคำถามของท่านได้
13. การจัดการเรื่องร้องเรียน
บริษัทของเราจะตอบสนองต่อข้อร้องเรียนและคำถามอื่น ๆ เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างรวดเร็วและเหมาะสม ท่านสามารถติดต่อสอบถามหรือร้องเรียนได้ที่ช่องทางในข้อ 14 ด้านล่าง
14. การรับมือในกรณีเกิดการรั่วไหลของข้อมูล
หากเกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เราจะดำเนินการตอบสนองอย่างเหมาะสม เช่น แจ้งลูกค้าเกี่ยวกับข้อเท็จจริงโดยเร็ว
15. ผู้รับผิดชอบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าหน้าที่จัดการข้อมูล บริษัท Kiva จำกัด
ติดต่อ: ช่องทางปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในข้อ 14 ด้านล่าง
16. ช่องทางติดต่อรวมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
หากท่านมีความคิดเห็น ข้อร้องเรียน หรือต้องการใด ๆ เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาติดต่อช่องทางปรึกษาข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
ชื่อช่องทางติดต่อ: ช่องทางปรึกษาข้อมูล
ผู้รับผิดชอบช่องทางติดต่อ: โคทาโร่ โออิชิ
ที่อยู่: ชั้น 7 อาคาร 3-12-5 สึกิจิ เขตชูโอ กรุงโตเกียว
โทรศัพท์/แฟกซ์: 03-6264-0825
อีเมล:[email protected]
17. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทของเราอาจมีการเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้ตามความเหมาะสม หากบริษัทตัดสินใจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยการเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับที่แก้ไขแล้วบนเว็บไซต์นี้
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่แก้ไขที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการปรับปรุง
เมื่อท่านใช้เว็บไซต์นี้หรือบริการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ถือว่าท่านยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว