กลยุทธ์การบริหารจัดการที่เน้นความยั่งยืนโดยพิจารณาจาก 3 มิติ

2025/02/24

ในช่วงไม่กี่ปีก่อนนี้ ในการบริหารธุรกิจ‘‘การบริหารจัดการอย่างยั่งยืน’’ได้รับความสำคัญมากขึ้น แนวคิดการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนคือ

① สิ่งแวดล้อม
② สังคม
③ เศรษฐกิจ

กลยุทธ์การจัดการที่สมดุลระหว่างการเติบโตของบริษัทและการมีส่วนร่วมทางสังคมโดยคำนึงถึงความยั่งยืนในสามมุมมองนี้ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า ‘‘การบริหารจัดการอย่างยั่งยืน’’

เบื้องหลังที่ธุรกิจต้องบริหารจัดการอย่างยั่งยืนคือ ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการลดลงของทรัพยากร รวมถึงความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างผู้บริโภค นักลงทุน และคู่ค้า และปัจจัยด้านการลดความเสี่ยงของธุรกิจและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ความสนใจต่อการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนก็เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีประเด็นคือ ‘‘แม้ว่าจะคิดว่าสำคัญ แต่การปฏิบัติจริงกลับยาก’’

อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนจะกลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคตของการบริหารธุรกิจเป็นหัวข้อที่ต้องให้ความสำคัญ

ดังนั้น บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์การดำเนินงานด้านการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนภายในประเทศ รวมถึงเนื้อหาการดำเนินงานที่ชัดเจน และตัวอย่างบริษัทต่างๆ

ยิ่งบริษัทขนาดใหญ่ ยิ่งมีอัตราการส่งเสริม ‘‘การบริหารจัดการอย่างยั่งยืน’’ สูงขึ้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสำคัญของการบริหารจัดการความยั่งยืนในธุรกิจได้เพิ่มมากขึ้น ในบรรดาบริษัทต่างๆ ภายในประเทศญี่ปุ่น ขอให้ท่านดูข้อมูลด้านล่างเพื่อพิจารณาว่าการบริหารจัดการความยั่งยืนได้รับการส่งเสริมมากน้อยเพียงใด

◆ สถานการณ์การดำเนินงานด้านการบริหารจัดการความยั่งยืน (แยกตามขนาดจำนวนพนักงาน)

ที่มา:สถานการณ์ความยั่งยืนและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในบริษัทญี่ปุ่น (บริษัท Business Brain Ota Showa จำกัด)

ข้อมูลข้างต้นเป็นผลการสำรวจในปี 2021 แต่ตามการสำรวจของบริษัท Business Brain Ota Showa จำกัดสัดส่วนการส่งเสริมการบริหารจัดการความยั่งยืนจะสูงขึ้นตามขนาดกิจการที่ใหญ่ขึ้นสามารถเข้าใจได้ว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความแตกต่างในการดำเนินการเมื่อแยกที่จำนวนพนักงาน 50 คน โดยบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กยังคงมีการส่งเสริมที่ไม่ก้าวหน้าสถานการณ์ดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยออกมา

แล้วทำไมบริษัทจำนวนมากจึงไม่สามารถส่งเสริมการบริหารจัดการความยั่งยืนได้ โปรดดูข้อมูลด้านล่าง

◆ ปัญหาในการส่งเสริมการบริหารจัดการความยั่งยืน

ที่มา:สถานการณ์จริงของการบริหารจัดการ ESG และความยั่งยืนคืออะไร? รายงานการสำรวจสถานการณ์การดำเนินงาน ESG (CCL. / Nikkei BP Consulting)※ ข้อมูลบางส่วนผ่านการปรับแก้โดยผู้เขียน

ตามผลการสำรวจของ Nikkei BP Consulting ในปี 2023 ปัญหาหลักที่บริษัทรู้สึกเมื่อดำเนินการส่งเสริมคือ"การหาบุคลากรที่มีความชำนาญเฉพาะทางเป็นเรื่องยาก (76.9%)" และ "ไม่สามารถจัดสรรบุคลากรและทรัพยากรสำหรับการส่งเสริมได้ (75.1%)" คือปัญหาด้านบุคลากรและทรัพยากรที่สำคัญได้รับการกล่าวถึง

จากผลลัพธ์นี้แม้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืนจะได้รับการยอมรับในฐานะแนวคิด แต่หลายบริษัทยังคงเผชิญปัญหาในการปฏิบัติใช้งานจริงสามารถเข้าใจได้ว่า

ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าความตระหนักที่เพิ่มขึ้นและความล่าช้าในการปฏิบัติการบริหารจัดการความยั่งยืนในบริษัทญี่ปุ่นซึ่งเป็นช่องว่างที่เกิดขึ้น โดยในภาพรวม บริษัทต่างๆ มีความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการบริหารจัดการความยั่งยืนและมีจิตสำนึกในการดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงบริษัทขนาดใหญ่มักดำเนินการได้ดี แต่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กยังคงพบว่า "ต้องการนำไปใช้แต่เป็นเรื่องยาก"สถานการณ์ดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป โดยมีปัญหาเรื่องการจัดหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและการจัดสรรทรัพยากร ทำให้การส่งเสริมเป็นเรื่องท้าทายมากขึ้น

แม้จะเป็นเช่นนั้น การบริหารจัดการความยั่งยืนไม่ใช่แต่เพียงความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทเพียงอย่างเดียว แต่ยังสัมพันธ์โดยตรงกับการเพิ่มมูลค่าบริษัทและการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน ปัจจุบันเป็นยุคที่ผู้บริโภคและนักลงทุนมีความรับรู้เปลี่ยนแปลงไป และการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมกลายเป็นเกณฑ์สำคัญในการเลือกบริษัทนี่คือการดำเนินงานที่จำเป็นสำหรับการบริหารจัดการที่ยั่งยืนของธุรกิจเช่นนั้น

แล้วจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ขั้นตอนถัดไปจะอธิบายแนวทางที่ชัดเจนสำหรับการปฏิบัติการบริหารจัดการความยั่งยืน

การดำเนินการ ‘‘การบริหารจัดการอย่างยั่งยืน’’ จากสามมุมมอง

เมื่อบริษัทต้องการปฏิบัติการบริหารจัดการความยั่งยืน

① สิ่งแวดล้อม
② สังคม
③ เศรษฐกิจ

จะต้องแสวงหาความยั่งยืนในสามมิติข้างต้น

ไม่เพียงแต่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมต่อสังคม แต่การเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะบริษัทก็เป็นปัจจัยสำคัญและการรักษาสมดุลในส่วนเหล่านี้อย่างเหมาะสมจะเป็นกุญแจสู่การบริหารจัดการความยั่งยืน

ตอนนี้จะอธิบายการดำเนินงานที่ชัดเจนในแต่ละมิติกัน

① ความพยายามด้าน ‘‘สิ่งแวดล้อม’’

การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการบริหารจัดการความยั่งยืน บริษัทต้องเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน

ตัวอย่างกิจกรรมที่เป็นแบบอย่างได้แก่

◆ ตัวอย่างการดำเนินงานในด้านสิ่งแวดล้อม

② ความพยายามด้าน ‘‘สังคม’’

ผลกระทบจากกิจกรรมของบริษัทต่อสังคมก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ให้เคารพความหลากหลายและจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานของทุกคนซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท

ตัวอย่างของการดำเนินงานเฉพาะเจาะจงมีดังนี้

◆ ตัวอย่างการดำเนินงานเพื่อสังคม

③ ความพยายามด้าน ‘‘เศรษฐกิจ’’

การที่บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงด้านการเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในแนวทางการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน ไม่เพียงแค่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเท่านั้นแต่ยังต้องรักษาผลกำไรของบริษัทไปพร้อมกับการคงไว้ซึ่งความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ

โดยรายละเอียดแล้ว จำเป็นต้องดำเนินมาตรการดังต่อไปนี้

◆ ตัวอย่างการดำเนินงานเพื่อเศรษฐกิจ

การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนไม่ได้หมายถึงเพียงการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมเท่านั้นแต่เป็นกลยุทธ์การบริหารที่มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรโดยการรวมมุมมองทั้งสามด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ อย่างสมดุล บริษัทจะสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนได้

ในหัวข้อถัดไป เราจะจัดระบบความแตกต่างและความสัมพันธ์กับแนวคิดที่มักจะสับสนกับการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น

ความแตกต่างและความสัมพันธ์กับ ‘‘CSR’’ ‘‘การลงทุน ESG’’ และ ‘‘SDGs’’ ที่มักสับสนกันได้ง่าย

คำว่า “การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน” นั้นใช้กันอย่างกว้างขวางแนวคิดที่คล้ายคลึงกันซึ่งมักถูกหยิบยกขึ้นมามี 3 ประการดังนี้。

・ CSR
・ การลงทุน ESG
・ SDGs

แม้แนวคิดเหล่านี้จะเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน แต่ความหมายและวัตถุประสงค์นั้นแตกต่างกัน และมักถูกสับสนได้ง่าย

ที่นี่เราจะอธิบายความแตกต่างและความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดทั้งสามนี้กับการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน

ความแตกต่างระหว่าง ‘‘CSR’’ กับการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน

CSR (ความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัท) คือแนวคิดที่ว่าบริษัทไม่ควรมุ่งหวังกำไรเท่านั้น แต่ยังต้องรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรวมถึงกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของบริษัท เช่น การบริจาค กิจกรรมอาสาสมัคร การมีส่วนร่วมกับชุมชน และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีสำหรับพนักงาน โดย CSR โดยพื้นฐานคือ “ความพยายามโดยสมัครใจที่มุ่งหวังจะเป็น “พลเมืององค์กรที่ดี”。

ในทางกลับกัน การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนเป็นการต่อยอดแนวคิด CSR โดยนำการใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาเป็นแกนกลางของการบริหารและมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน

ถ้า CSR คือ “กิจกรรมเพื่อสังคมโดยความตั้งใจดีของบริษัท” การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนคือ “กลยุทธ์การบริหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันและการอยู่รอดในระยะยาวของบริษัท”

สำหรับหัวข้อ CSRเราได้รวบรวมรายละเอียดไว้ในบทความด้านล่างโปรดอ่านประกอบด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง：ข้อดีและตัวอย่างการดำเนินงานของ “CSR” ซึ่งสร้างคุณค่าทางสังคมของธุรกิจ

ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘‘การลงทุน ESG’’ กับการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน

การลงทุน ESG คือวิธีการประเมินบริษัทและตัดสินใจลงทุนโดยพิจารณาจากองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม (E) สังคม (S) และธรรมาภิบาล (G)

ใช้เมื่อนักลงทุนประเมินความสามารถในการเติบโตระยะยาวและการบริหารความเสี่ยงของบริษัท โดยให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เคารพสิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย

การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนและการลงทุน ESG แตกต่างกันที่มุมมองของบริษัทและนักลงทุนการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน คือกลยุทธ์ที่บริษัทใช้เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนการลงทุน ESG คือเกณฑ์ที่นักลงทุนใช้ประเมินกลยุทธ์นั้น

กล่าวคือการดำเนินงานตามแนวทางการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนจะช่วยเพิ่มคะแนน ESG และทำให้นักลงทุนไว้วางใจมากขึ้นมีความสัมพันธ์เช่นนี้

เกี่ยวกับการลงทุน ESG,บทความด้านล่างก็มีการกล่าวถึงเช่นกัน กรุณาดูควบคู่กันไปด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง：ESG คือเกณฑ์ในการบริหารและลงทุนโดยอิงตาม "สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล"

ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘‘SDGs’’ กับการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน

SDGs (เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน) คือเป้าหมาย 17 ประการที่สหประชาชาติได้ประกาศให้บรรลุภายในปี 2030เป็นประเด็นที่ต้องดำเนินการทั่วโลก เช่น การขจัดความยากจน การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความเท่าเทียมทางเพศ เป็นต้น

การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนถือเป็นวิธีการนำเป้าหมาย SDGs มาสะท้อนในกิจการของบริษัทและเชื่อมโยงไปสู่การดำเนินการที่เป็นรูปธรรม

ตัวอย่างเช่น การที่บริษัทพยายามลดการปล่อย CO2 และส่งเสริมความหลากหลาย จะช่วยส่งเสริมการบรรลุเป้าหมาย SDGs กล่าวคือSDGs คือ "เป้าหมายที่ควรมุ่งหวัง" ในขณะที่การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนคือ "กลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว"จึงมีความสัมพันธ์ดังกล่าว

ดังนั้น การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนจึงเกี่ยวข้องกับ CSR, การลงทุน ESG และ SDGsเป็นความคิดที่รวมแนวคิดเหล่านี้เข้าสู่กลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของบริษัทและความรับผิดชอบต่อสังคม

ต่อไปจะอธิบายว่าการดำเนินการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนมีประโยชน์อย่างไรสำหรับบริษัท

5 ประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน

การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนเป็นการดำเนินการที่มุ่งตอบแทนต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม แต่ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับการเพิ่มยอดขาย

แต่ในแง่ของการเติบโตอย่างยั่งยืนและการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของบริษัท จะมีประโยชน์มากมาย ช่วยให้มีเสถียรภาพทางธุรกิจในระยะยาว โดยมีข้อดีดังนี้

◆ 5 ประโยชน์จากการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน

การดำเนินการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนจะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน

การใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมนำไปสู่การเพิ่มภาพลักษณ์แบรนด์และการประเมินที่ดีจากนักลงทุนและช่วยให้การระดมทุนเป็นไปได้อย่างได้เปรียบ นอกจากนี้ ความพยายามในการประหยัดพลังงานและการหมุนเวียนทรัพยากรยังส่งเสริมความมั่นคงทางธุรกิจในรูปแบบของการลดต้นทุน

นอกจากนี้การจัดสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีช่วยในการรักษาบุคลากร และการปรับตัวสู่กฎระเบียบช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงซึ่งสามารถคาดหวังผลลัพธ์ดังกล่าวได้เช่นกัน

ในยุคที่การบริหารองค์กรต้องไม่เพียงแสวงหากำไรระยะสั้นเท่านั้น แต่ต้องมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนจึงถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น

ต่อไปจะขอแนะนำตัวอย่างบริษัทที่ดำเนินการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนอย่างจริงจัง

ตัวอย่างบริษัท 3 แห่งที่ดำเนินการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน

ในที่นี้จะแนะนำความพยายามของ 3 บริษัทที่ส่งเสริมการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนอย่างแข็งขันและประสบความสำเร็จ

ตัวอย่างที่ 1 บริษัท Canon Inc.

บริษัท Canon ได้ยึดถือหลักการ "การอยู่ร่วมกัน" เป็นปรัชญาของบริษัทตั้งแต่ปี 1988 และดำเนินการหลายด้านเพื่อมุ่งสู่สังคมที่ยั่งยืน

ในด้านสิ่งแวดล้อมตั้งเป้าลดการปล่อย CO2 ตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการออกแบบผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน กิจกรรมลด CO2 ที่สถานประกอบการ และการใช้พลังงานทดแทน

นอกจากนี้ จากมุมมองของการหมุนเวียนทรัพยากร ได้ส่งเสริมอย่างแข็งขันในการลดขยะ การใช้งานซ้ำ และการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ในปี 2023 ได้มอบหมายการจัดการการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ประมาณ 83,763 ตัน

ในด้านสังคม มุ่งเน้นการเคารพสิทธิมนุษยชน การจัดสภาพแวดล้อมการทำงาน และการส่งเสริมความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด"แนวทางผู้จัดหาความยั่งยืนของ Canon"จัดทำขึ้นและดำเนินการร่วมกับคู่ค้าของบริษัท

ในเดือนเมษายน 2024 ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการความยั่งยืนขึ้นและได้จัดเตรียมโครงสร้างเพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจที่เหมาะสมและมีประสิทธิผลจะเกิดขึ้นโดย CEO และคณะกรรมการบริหาร

ข้อมูลอ้างอิง:ความยั่งยืน (บริษัท Canon)

ตัวอย่างที่ 2 บริษัท Goldwin Inc. (THE NORTH FACE)

Goldwin ซึ่งดำเนินธุรกิจแบรนด์เครื่องแต่งกายกลางแจ้ง "THE NORTH FACE" กำลังก้าวหน้าการบริหารจัดการความยั่งยืนภายใต้ปรัชญาองค์กรที่ว่า "มุ่งเน้นการสร้างชีวิตที่มั่งคั่งและมีสุขภาพดีผ่านกีฬา"

ในด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมหมุนเวียนและให้บริการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์มีการดำเนินระบบรับประกันการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ที่ชำรุด และบริการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ในอดีต。

ด้วยมาตรการเหล่านี้ได้มีการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ประมาณ 14,000 ชิ้นต่อปีซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้กำลังพัฒนาเส้นใยใหม่ที่ใช้วัสดุจาก "โปรตีนโครงสร้าง" ซึ่งผลิตจากกระบวนการหมักของจุลินทรีย์เส้นใยนี้ (เส้นใยที่สาม) มีความคาดหวังว่าจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีการหมุนเวียนของทรัพยากรเป็นพื้นฐาน

ในด้านสังคม บริษัทดำเนินกิจกรรมร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อมุ่งหวังการ "อนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน" ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและการฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่น

ข้อมูลอ้างอิง:ความยั่งยืน (บริษัท Goldwin)、ตั้งเป้าที่จะนำเส้นใยที่สามแบบหมุนเวียนสู่การใช้งานจริง และการบรรลุเป้าหมายการ "อนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน" ในอุทยานแห่งชาติ—ภาพอนาคตที่ Goldwin วาดไว้ (Sustainable Brand Japan)

ตัวอย่างที่ 3 บริษัท Ito En Ltd.

Ito En มีแนวคิดพื้นฐานของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ว่า "ธรรมชาติ สุขภาพ ปลอดภัย การออกแบบที่ดี และอร่อย" และกำลังส่งเสริมการบริหารจัดการความยั่งยืนที่ผสมผสานการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเข้ากับการเพิ่มมูลค่าองค์กร

ในด้านสิ่งแวดล้อมมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืนผ่านโครงการพัฒนาพื้นที่ปลูกชานอกจากนี้ยังลดน้ำหนักของขวดพลาสติกและขยายการใช้วัสดุรีไซเคิลได้แนะนำภาชนะกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ชื่อ "ภาชนะ ECO แบบไม่ใช้อลูมิเนียม"และยังดำเนินการอย่างแข็งขันในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการนำใบชากลับมาใช้ใหม่และลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืช

ด้วยมาตรการเหล่านี้ บริษัทได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคและช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร

ในด้านสังคม บริษัทให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันกับชุมชนท้องถิ่น โดยดำเนินกิจกรรมสนับสนุนเกษตรกรรมและฟื้นฟูชุมชนผ่านโครงการพัฒนาพื้นที่ปลูกชา นอกจากนี้ยังทุ่มเทในการดูแลสุขภาพพนักงานและจัดสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่คนหลากหลายสามารถเติบโตได้

ข้อมูลอ้างอิง:นโยบายพื้นฐานด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท Ito En (เว็บไซต์ข้อมูลองค์กรของ Ito En)、ความพยายามด้านสิ่งแวดล้อม (เว็บไซต์ข้อมูลสินค้า Ito En)

บริษัทเหล่านี้มีความก้าวหน้าในการบริหารจัดการความยั่งยืนอย่างแข็งขัน โดยแสวงหาความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ พร้อมกับสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

สรุป

การบริหารจัดการความยั่งยืนเป็นวิธีการบริหารที่มุ่งหวังการเติบโตของบริษัทโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ แตกต่างจาก CSR หรือ SDGs ที่เน้นแค่การมีส่วนร่วมทางสังคม เพราะถูกผนวกเข้ากับกลยุทธ์การบริหารองค์กรโดยตรง ซึ่งให้ประโยชน์มากมาย เช่น การเพิ่มมูลค่าบริษัทและการได้รับการประเมินที่ดีจากนักลงทุน

ในประเทศ ความตระหนักเกี่ยวกับความยั่งยืนกำลังขยายตัว โดยเฉพาะในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการส่งเสริมการบริหารจัดการความยั่งยืนอย่างก้าวหน้า แต่ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมากยังไม่มีความพยายามเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดของกฎระเบียบสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงความตระหนักของผู้บริโภค ทำให้สถานการณ์ที่บริษัทต้องดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้น การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยเหล่านี้และการปฏิบัติการบริหารจัดการความยั่งยืนอย่างแข็งขันจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เติบโตของบริษัทและความยั่งยืนของสังคมสามารถดำเนินควบคู่กันไปได้

เริ่มต้นด้วยการขอข้อมูลเบื้องต้นง่าย ๆ

จะแนะนำเกี่ยวกับฟังก์ชันและขั้นตอนการนำเข้าของUniweb

ขอเอกสาร